บริษัทขนส่งชั้นนำแห่งประเทศไทย ทั้ง 3 แห่ง กำลังปรับปรุงการให้บริการระบบขนส่งตู้สินค้าในประเทศไทยให้ทันสมัยและก้าวไกลด้วย MatchBox Exchange

ในขณะที่ธุรกิจการขนส่งตู้สินค้าในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการส่งออกที่ทำสถิติสูงสุดและกิจกรรมที่ท่าเรือที่เพิ่มขึ้น ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์กำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นอยากต่อเนื่อง อาทิ ความแออัดที่ท่าเรือและลานเก็บตู้สินค้า การขาดแคลนรถบรรทุกในการรับงาน ต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น และเป้าหมายในการลดปล่อยก๊าซลดคาร์บอน กำลังกดดันให้ภาคอุตสาหกรรมต้องทบทวนวิธีการให้บริการ การเคลื่อนย้ายตู้สินค้าในรูปแบบเดิม ไปเข้าสู่การให้การทำงานรูปแบบใหม่ที่ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนการทำงาน

วิดีโอที่รวบรวมประสบการณ์การใช้งานจริงและบทความสุดพิเศษนี้จะพาคุณไปสัมผัสเบื้องหลังของผู้ให้บริการขนส่งของบริษัทชั้นนำในประเทศไทยทั้ง 3 แห่ง ที่กำลังนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยในการแก้ไขปัญหา และสร้างความท้าทายการดำเนินการรูปแบบใหม่ด้วยการนำตู้สินค้ากลับมาใช้ซ้ำและแลกเปลี่ยนตู้สินค้าระหว่างบริษัทขนส่งด้วยกัน พวกเขาสามารถลดเวลารอการรอรับตู้ที่ลาน ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งของรถบรรทุก(สามารถทำเที่ยวเพิ่มได้) และสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงและยั่งยืนยิ่งขึ้น ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาระบบขนส่งในประเทศไทยในระยะยาว

อยากรู้ไหมว่า MatchBox Exchange ช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร? พูดคุยกับทีมงานของเรา

ธุรกิจการค้าตู้สินค้าที่กำลังเฟื่องฟูของไทย

ภาคการส่งออกของไทยทำสถิติสูงสุดในปี 2024 โดยมีมูลค่าเกิน 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะจุดเชื่อมโยงสำคัญของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เครือข่ายท่าเรือของประเทศไทยจัดการตู้สินค้ามากกว่า 8 ล้าน TEU ต่อปี ซึ่งช่วยรองรับอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเกษตรกรรม


แม้ว่าการเติบโตทางการค้าจะสร้างโอกาส แต่ก็สร้างแรงกดดันอย่างมหาศาลต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์เช่นกัน การขาดแคลนรถบรรทุกหัวลาก ความแออัดของท่าเรือ ต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และการจราจรที่หนาแน่นในการรับตู้ ล้วนก่อให้เกิดปัญหาเชิงโครงสร้างที่สร้างความท้าทายในการพัฒนาท่าเรือขนส่งสินค้าในประเทศไทย ซึ่งในการสร้างท่าเรือหรือการปรับปรุงท่าเรือใหม่นั้น ต้องใช้ระยะเวลาการดำเนินการค่อนข้างยาวนานถึงจะแล้วเสร็จ แต่ในทางกลับกันการดำเนินงานหรือธุรกิจนั้น้องดำเนินการต่อ โดยไม่สามารถหยุดยั้งที่จะรอได้

ความท้าทายที่กำลังเผชิญความกดดัน

ปัญหาความแออัดสูงของการจราจรในท่าเรือ: ท่าเรือแหลมฉบังเผชิญกับปัญหาการสะสมของเวลารถบรรทุกรอที่ยาวนานเฉลี่ย เกิน 10 ชั่วโมง และบางครั้งก็ยืดเยื้อต่อเนื่องถึง 24 ชั่วโมง ปัญหานี้ทำให้เกิดต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น การหมุนเวียนการทำรอบของรถบรรทุกได้น้อย และส่งผลต่อการจัดส่งล่าช้า


โครงสร้างพื้นฐานที่ถดถอย: คลังสินค้า ลานพักตู้สินค้า และลานบรรจุสินค้าหลายแห่งขาดเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนการดำเนินงาน ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงาน การจัดการ และความยืดหยุ่นในการดำเนินงานโดยรวมลดลง


การขาดแคลนรถบรรทุก: ด้วยจำนวนรถบรรทุกพร้อมใช้งานมีจำกัดหรือไม่เพียงพอในช่วงเทศกาล ส่งผลให้งานส่งออกจึงประสบกับความล่าช้าในการเข้ารับสินค้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิผลของห่วงโซ่อุปทาน


ปริมาณตู้สินค้าที่พุ่งสูงขึ้น: ในปี 2024 เพียงปีเดียว ท่าเรือแหลมฉบังมีปริมาณ TEU สูงขึ้น 8% เรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นเกือบ 700,000 ตู้ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงกว่าการเติบโตเฉลี่ยต่อปีถึงสามเท่า แนวโน้มนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2025


ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มสูงขึ้น: ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้นเนื่องจากความล่าช้า เวลาว่างของรถบรรทุก และค่าธรรมเนียมการผ่านเข้ารับตู้สินค้า

การเปลี่ยนแปลงระบบขนส่งโลจิสติกส์การรับตู้สินค้าผ่านความร่วมมือเทคโนโลยีดิจิทัล

MatchBox Exchange แพลตฟอร์มโลจิสติกส์การใช้ซ้ำ แลกเปลี่ยนตู้สินค้าดิจิทัลจะช่วยผู้ให้บริการขนส่งและผู้ส่งสินค้าในประเทศไทยสามารถรับมือกับปัญหาเหล่านี้ ผ่านโมเดลการนำตู้สินค้ากลับมาใช้ซ้ำและแลกเปลี่ยนตู้สินค้ากับกลุ่มพันธมิตร ซึ่งช่วยลดการเข้าไปที่ลานรับตู้สินค้า ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของรถบรรทุก


หัวใจสำคัญของ MatchBox คือ ความร่วมมือ: การเชื่อมโยงผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่ต้องการตู้สินค้ากับผู้ให้บริการที่มีตู้เหล่านั้นแบบเรียลไทม์


“ก่อนหน้านี้ เราสามารถขนส่งได้แค่ 2 เที่ยวต่อวันเท่านั้นด้วยรถบรรทุกแค่คันเดียว แต่หลังจากใช้ MatchBox เราสามารถนำตู้สินค้านำเข้าที่ว่างแล้วกลับมาใช้ใหม่สำหรับการส่งออกในวันเดียวกัน ทำให้เราทำขนส่งได้ถึง 4-5 เที่ยวต่อวัน” คุณภูรินทร์ เสตสิงห์์ จากบริษัท เจริญใจ โลจิสติกส์ ได้กล่าวไว้

โมเดลการนำตู้สินค้ากลับมาใช้ใหม่

ด้วยรูปแบบการนำกลับมาใช้ใหม่ ตู้สินค้านำเข้าสามารถนำไปใช้สำหรับการส่งออกได้โดยตรง โดยไม่ต้องขนกลับไปยังลานตู้เลย วิธีนี้ช่วยลดเวลาการหมุนเวียนของรถ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถบรรทุก และทำให้การส่งสินค้าถึงผู้ส่งออกรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งลดปัญหาการรอคิวยาวนานที่ลานตู้สินค้า


“ผลตอบรับจาก BCOs เป็นไปในทางที่ดีอย่างยิ่ง เพราะพวกเขาสามารถส่งตู้เปล่าไปยังโรงงานได้ทันทีเพื่อทำการบรรจุสินค้า” โมเดลนี้ช่วยให้เราสามารถใช้รถบรรทุกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” คุณปัณณวิช พจน์ศิริ จากบริษัท ไทยคชสาร โลจิสติกส์ อธิบายไว้

โมเดลการแลกเปลี่ยนตู้สินค้า

ในกรณีที่ไม่สามารถนำตู้สินค้ากลับมาใช้ใหม่ภายในของบริษัท ยังมีอีกโมเดล คือ การแลกเปลี่ยนตู้สินค้าจะช่วยให้ผู้ให้บริการขนส่งสามารถแบ่งปันตู้สินค้าในเครือข่ายพันธมิตรที่เชื่อถือได้ด้วยกัน ตู้สินค้านำเข้าของบริษัทหนึ่งกลายเป็นโอกาสส่งออกของอีกบริษัทหนึ่ง โมเดลนี้ไม่เพียงช่วยลดระยะทางของการวิ่งรถเปล่าและเวลารอที่ลานตู้เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน ด้วยการนำเสนอตัวเลือกตู้สินค้ามากขึ้นให้กับผู้ขนส่งโดยไม่ต้องประสบกับความล่าช้าที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ


คุณปัณณวิช พจน์ศิริจากไทยคชสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามีการแลกเปลี่ยนตู้สินค้ากับบริษัทเจริญใจมากว่าสองปีแล้ว” ในฐานะบริษัทขนส่ง ตารางการจองการขนส่งสินค้าภายในบริษัทของเรามักไม่ตรงกัน และเราอาจใช้ตัวแทนสายเรือคนละเจ้ากัน แต่ด้วยความร่วมมือและการแบ่งปันตู้สินค้า เราจึงสามารถช่วยเหลือกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อฝ่ายหนึ่งมีการงานส่งออกตู้สินค้า และอีกฝ่ายมีตู้สินค้านำเข้าจากสายเรือเดียวกัน เราสามารถประสานงานกันได้อย่างง่ายดาย เลยกลายเป็นสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน”

การสร้างผลกระทบในโลกแห่งความเป็นจริง

  • เพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงาน: ด้วยการลดจำนวนการเดินทางเข้าและออกจากลานตู้ รถบรรทุกจึงสามารถเพิ่มจำนวนเที่ยววิ่งต่อวันได้อย่างมาก
  • การหลีกเลี่ยงการเข้าและออกลานตู้: คนขับรถไม่ต้องเผชิญกับคิวยาวและเวลารอที่ลานตู้/ลานเก็บตู้สินค้า
  • ลดต้นทุน: เมื่อจำนวนเที่ยวการเดินทางเข้าและออกที่ลานตู้ลดลง ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และลดค่าปรับจากความล่าช้า
  • การหมุนเวียนที่รวดเร็วขึ้น: ผู้ส่งออกจะได้รับตู้สินค้าเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มความพร้อมในการจัดส่งสินค้า
  • ความยั่งยืน: การขับขี่ที่น้อยลงย่อมหมายถึงอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดลง และทำให้ห่วงโซ่อุปทานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

การสนับสนุนความมุ่งมั่นของไทยสู่การสร้างสรรค์ระบบโลจิสติกส์ที่ท่าเรืออัจฉริยะและรักษ์สิ่งแวดล้อม

ในขณะที่ประเทศไทยได้มีการปรังปรุงโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ผ่านโครงการท่าเรืออัจฉริยะ การเชื่อมโยงระบบขนส่งหลายรูปแบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการผลักดันสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในระดับชาติ แนวทางการแก้ไขปัญหารูปแบบดิจิทัลที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรขององค์กรจึงได้รับความสนใจมากขึ้น แพลตฟอร์มอย่าง MatchBox Exchange ที่เปิดโอกาสให้มีการนำตู้สินค้ากลับมาใช้ซ้ำและแลกเปลี่ยนกัน ช่วยให้ผู้ให้บริการขนส่งในท้องถิ่นหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าและออกลานตู้โดยไม่จำเป็น และลดปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ด้วยเช่นกัน


ตั้งแต่เปิดตัวแพลตฟอร์มเวอร์ชันภาษาไทยในเดือนสิงหาคม 2020 MatchBox ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ตั้งแต่ต้นปี 2024 การใช้งานแพลตฟอร์มในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 278% โดยการจองแต่ละรายการที่เป็นโมเดลการนำกลับมาใช้ใหม่หรือการแลกเปลี่ยนตู้สินค้านั้น ช่วยประหยัดเวลาขับรถ ระยะทาง และต้นทุนที่สำคัญได้เป็นอย่างดี


แพลตฟอร์มนี้เชื่อมต่อกับสายเรือหลักระดับโลกที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย เช่น Maersk, Sealand, Hapag-Lloyd, CMA CGM Group (ANL, APL, CNC), PIL และ ONE ทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถทำความร่วมมือกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในสภาวะแวดล้อมที่การค้ามีปริมาณการซื้อขายสูง ในขณะที่ประเทศไทยก้าวสู่อนาคตโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงและยั่งยืนมากขึ้น ผู้ให้บริการขนส่งในท้องถิ่นที่ใช้ MatchBox Exchange ก็ได้กลายเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินงานของทุกการเดินทางในทุกตู้สินค้า


เพื่อให้ทราบข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้นว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นอย่างไรในสถานการณ์จริง ลองรับชมข้อมูลจากผู้ใช้งานจริงจาก เครือข่ายขนส่งของประเทศไทยได้โดยตรงผ่านวิดีโอด้านบนนี้

MatchBox Exchangeสามารถทำอะไรให้กับธุรกิจของคุณได้บ้าง?

ติดต่อทีม MatchBox Exchange เพื่อขอการสาธิตและหารือว่าเราจะเพิ่มมูลค่าการดำเนินงานของคุณได้อย่างไร

เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ คุณยินยอมให้ MatchBox Exchange จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

ขอขอบคุณ
ที่ติดต่อเรา

คำถามของคุณถูกส่งให้กับทีมงานของเราเรียบร้อยแล้ว
เราจะติดต่อคุณกลับไปโดยเร็วที่สุด